กาแลกซีเปลี่ยนรูปร่าง

ภาพจาก ESA/Hubble & NASA

กาแลกซีจำนวนมากในจักรวาลมีรูปร่างคล้ายกาแลกซีทางช้างเผือกของเราโดยมีแขนโค้งเป็นเกลียววนรอบนิวเคลียสที่สุกสว่าง (รูปก้นหอย) แต่ยังมีกาแลกซีรูปร่างแปลกประหลาดอีกมากมายเช่นกาแลกซี Markarian 779 ซึ่งถูกจับภาพด้วย Hubble Space Telescope ในขณะที่เจ้ากาแลกซีกำลังบิดเบือนรูปร่างของมัน ลักษณะดังกล่าวเกิดจากกาแลกซีแบบก้นหอยสองแห่งเข้าชนกัน การชนกันได้ทำลายแขนโค้งเรียวอันเป็นเอกลักษณ์ของทั้งสองกาแลกซีและกระเจิงฝุ่นก๊าซจำนวนมาก ก่อนที่จะผสานรวมก่อรูปเป็นหนึ่งกาแลกซีเดียวกันที่มีรูปร่างเฉพาะตัวดังที่เห็นในภาพ

กาแลกซีนี้จัดอยู่ในประเภท Markarian ซึ่งเป็นชื่อฐานข้อมูลของวัตถุสว่างสดใสบนท้องฟ้ามากกว่า 1,500 แห่งโดยตั้งชื่อตาม B. E. Markarian นักดาราศาสตร์ที่ศึกษาวัตถุเหล่านี้ในยุค 1960s เขาได้สำรวจเพื่อค้นหาและเก็บรวบรวมวัตถุบนฟากฟ้าที่ส่องแสงสว่างเป็นพิเศษโดยเฉพาะวัตถุที่ปลดปล่อยแสง UV ออกมาเยอะกว่าปกติ

รังสี UV สามารถแผ่ออกมาจากแหล่งกำเนิดที่แตกต่างหลากหลาย ดังนั้นจึงมีวัตถุหลายประเภทถูกบันทึกรวมไว้ด้วยกันในฐานข้อมูล Markarian รังสี UV มหาศาลอาจมาจาก active galaxy ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยหลุมดำขนาดยักษ์ตรงใจกลางกาแลกซี อาจมาจากการก่อเกิดดาวฤกษ์ใหม่ ๆ อย่างรวดเร็ว (starburst) และการชนกันของวัตถุที่ใหญ่ระดับกาแลกซี ดังนั้นวัตถุในฐานข้อมูล Markarian จึงนิยมถูกใช้เพื่อศึกษา active galaxy ปรากฏการณ์เกี่ยวกับ starburst อันตรกิริยาระหว่างกาแลกซี รวมไปถึงการชนและการผสานรวมกันของกาแลกซี เป็นต้น


เรียบเรียงจาก:  http://www.nasa.gov/mission_pages/hubble/science/markarian-779.html
                   

3 ความคิดเห็น:

  1. ไวจริงอะไรจริง

    ตอบลบ
  2. ถ้ารูปร่างแปลกๆ นี้เกิดจากการชนกันของกาแลกซี่ แล้วตอนนี้การรวมตัวกันของกาแลกซี่ทั้งสองมันเสถียรหรือยังครับ หรือว่ามันจะค่อยๆ แปรเปลี่ยนรูปร่างต่อไปอีก?

    ตอบลบ
  3. อันนี้ไม่ชัวร์ครับ เท่าที่หาข้อมูลมาคือถ้า spiral galaxy 2 แห่งขนาดเท่า ๆ
    กันชนกัน (ด้วยมุมที่ไม่ต่างกันมากนัก) ผลลัพธ์สุดท้ายจะได้เป็น
    elliptical galaxy (http://en.wikipedia.org/wiki/G... 
    แต่ผมคิดว่าถ้าเป็นกาแลกซีรูปแบบอื่น ๆ ชนกันด้วยเงื่อนไขที่เปลี่ยนไป
    อาจจะได้กาแลกซีแบบไร้รูปร่างซึ่งคงยากที่จะระบุว่าเมื่อไหร่ถึงจะเรียกว่า
    เสถียร เพราะเราไม่รู้รูปร่างสุดท้ายที่ควรจะเป็น
    ซึ่งอาจจะต้องมีการกำหนดเพิ่มเติมว่าแค่ไหนจึงจะเรียกว่าเสถียร
    เช่นอาจบอกด้วยอัตราการเปลี่ยนรูปร่างที่ต้องน้อยกว่าค่ามาตรฐานสักค่าหนึ่ง

    แต่เราก็ไม่ได้มีชีวิตอยู่นานพอที่จะสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่อาจใช้เวลาเป้
    นล้าน ๆ ปี เพื่อให้แน่ใจว่ามันเสถียรและหยุดเปลี่ยนรูปร่างแล้ว
    ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดที่จะบอกว่ามันเสถียรรึป่าวน่าจะต้องสร้างโมเดลเฉพาะ
    กรณีไปและคำนวนจากคอมพิวเตอร์มากกว่าการสังเกตการณ์จริง
    (ความเห็นส่วนตัวนะครับ)

    ตอบลบ